กองส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยแม่โจ้
Arts and Culture Promotion Division

ศูนย์ศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยแม่โจ้  รับสมัครนักศึกษามหาวิทยาลัยแม่โจ้ ผู้มีความสามารถและสนใจเข้าร่วมประกวด

 การอ่านทำนองเสนาะ ระดับอุดมศึกษา ครั้งที่ ๒ ถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

 

ผู้จัด:

หลักสูตรภาษาไทย สาขาวิชาภาษาไทย มหาวิทยาลัยขอนแก่น ร่วมกับคณะกรรมการบริหาร "กองทุนพระมหาชนก มหาวิทยาลัยขอนแก่น" กระทรวงวัฒนธรรม และมูลนิธิคึกฤทธิ์ ๘๐ ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนรสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี  

จัดโครงการประกวดการอ่านทำนองเสนาะระดับอุดมศึกษา ครั้งที่ ๒  ถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  "สรวลเสียงเสนาะทำนองขับ-พากย์-อ่าน-ร้อง ซ้องถวาย"


คุณสมบัติ:

- กำลังศึกษาระดับปริญญาตรี

- มีหนังสือรับรองการเป็นนักศึกษาจากสถาบันการศึกษาต้นสังกัด

 

ประเภท:

- อุดมศึกษาชาย

- อุดมศึกษาหญิง

 

ขั้นตอนการสมัคร:

ผู้สมัครจะต้องบันทึกเสียงอ่านทำนองเสนาะต่างๆ  ดังนี้

- โคลงสี่สุภาพ

- กลอนสี่สุภาพ

- กลอนเสภา

- อินทรวิเชียรฉันท์

- ฉบัง

- ยานี

จากนั้นส่งแผ่นซีดีบันทึกเสียงอ่านทำนองเสนาะ (บันทึกเป็นไฟล์ MP3) พร้อมใบสมัครและหนังสือรับรองการเป็นนักศึกษาสถานศึกษาต้นสังกัด  ภายในวันที่ ๑๕ สิงหาคม ๒๕๕๔ ไปที่

โครงการประกวดการอ่านทำนองเสนาะ ระดับอุดมศึกษา ครั้งที่ ๒

สาขาวิชาภาษาไทย คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์

มหาวิทยาลัยขอนแก่น  ๔๐๐๐๒

 

คณะกรรมการจะพิจารณาคัดกรองจากแผ่นซีดีบันทึกเสียง  ให้เหลือผู้ผ่านเข้าชิงชนะเลิศ จำนวน ๑๐ คน (ชาย ๕ หญิง ๕) 

และโทรศัพท์แจ้งผลผู้ผ่านเข้ารอบ ในวันที่  ๑๒ กันยายน ๒๕๕๔

 

บทอ่านทำนองเสนาะสำหรับบันทึกเสียงส่งเข้าสมัคร

โคลงสี่สุภาพ

       มโนมอบพระผู้ เสวยสวรรค์

แขนมอบถวายทรงธรรม์ เทิดหล้า

ดวงใจมอบเมียขวัญ และแม่

เกียรติศักดิ์รักของข้า มอบไว้แก่ตัว

 

กลอนสุภาพ

ศักดิ์ ประมูลพูนเพิ่มเฉลิมศักดิ์

สิทธิ์ เหมือนรามปราบยักษ์ผู้ศักดิ์สิทธิ์

ฤทธิ์ อรีแรงร้ายจงพ่ายฤทธิ์

ชัย วิชิตทุกทีจงมีชัย

ปราบ อรินสิ้นเหิมเริ่มปราบ

ได้ ให้ราบแรงลานอย่าผลาญได้

ไป ถึงไหนอริพินาศไป

ทั่ว โลกชมชื่อไทยไปทั่วเทอญ

 

กลอนเสภา

ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาท บรมนาถนฤบดินทร์ปิ่นสยาม

ได้ปกเกล้าเกษมสุขทุกโมงยาม พึ่งพระรามจอมดินสิ้นภยา

ข้าพระบาทจะขับเสภาถวาย หมายบำเรอวรบาทให้หรรษา

ขอภูมินทร์ปิ่นปักอยุธยา ทรงเมตตากรุณาและขันตี

อันกล่าวกลอนสุนทรวจีกล่อม ย่อมบกพร่องท่องจำไม่ได้ที่

แม้พลั้งพลาดขาดเกินซึ่งวาที ขอภูมีโปรดประทานซึ่งอภัย

 

อินทรวิเชียรฉันท์

ไร้ปิ่นดิลกราชย์ ละก็ชาติจะภินท์พัง

ไหนเลยจะตั้งหวัง อิสรานุภาพครอง

โลกเราสง่างาม ก็เพราะแสงตะวันส่อง

สิ้นแสงระวีต้อง มละทั่วนะฉันใด

อันปวงประชาเปรม ฤดิพึ่งพระเดชไท้

เดชดับก็มืดใน ฤดิหม่นละแน่นอน

ราตรีสว่างแจ้ง ก็เพราะแสงนิศากร

โกฏิดาว ณ อัมพร ก็บ่เท่าพระจันทร์เดียว

อันว่าพระคุณเปรียบ วรโสมะนั่นเทียว

ไร้นาถะข้าเหลียว จะประสบพระเจ้าไหน?

 

ฉบัง

ข้าขอกล่าวคำทำนูล นบพระนเรนทร์สูร

ผดุงพิภพภูมิสยาม

ทุกเทศเขตด้าวราวคาม บันลือพระนาม

นิยมพระยศภูวไนย

ชื่นจิตทุกตนคนไทย ต่างร้องอวยชัย

ถวายพระพรชัยมงคล

ขอจงจำเริญพระชม มายุยังผล

บังเกิดแก่ชาติศาสนา

บ้านเมืองเรืองรุ่งลือชา สมแก่เวลา

ทันเทียมที่อื่นหมื่นแสน

เป็นสุขสนุกทั่วดินแดน เทียบเทียมเมืองแมน

อันแสนเกษมเปรมปรีดิ์

 

ยานี

ข้าเจ้าเหล่าพสก พร้อมกันยกหัตถ์วัรทา

แลขอปฏิญญา แด่พระองค์ผู้ทรงธรรม์

ขอพระองค์พระไตรรัตน์ ที่พึ่งสัตว์สารพัน

อีกเทวะเทวัญ เป็นพยาน ณ กาลนี้

ข้าเจ้าผู้เป็นไทย จงใจรักและภักดี

ต่อองค์พระทรงศรี สถิตเกล้าเหล่าประชา

ขอพึ่งพระสมภาร ทุกวันวานขอเป็นข้า

เต็มใจใฝ่อาสา เพื่อต่อสู้หมู่ไพรี

 

การประกวดรอบชิงชนะเลิศ

ผู้ผ่านเข้ารอบ ๑๐ คนสุดท้าย  ต้องไปประกวดอ่านทำนองเสนาะต่อหน้าคณะกรรมการ   ในวันพุธที่  ๒๑  กันยายน ๒๕๕๔  ณ สถาบันคึกฤทธิ์

โดยแบ่งออกเป็น  ๒ ส่วน คือ

- "ฉันทพากย์ยากล้ำลำเค็ญ"  

   ผู้ผ่านเข้ารอบจะทราบล่วงหน้าก่อนการอ่านประกวด ประมาณ  ๑๐ นาที

- "ระงมดนตรี คือเสียงกวี สำเนียงนิรันดร์"

    ผู้ผ่านเข้ารอบต้องแสดงความสามารถพิเศษในการขับร้องเพลงไทย โดยจับฉลากเลือกเพลงไทยที่จะขับร้องประกวดเพียง  ๑ เพลง จากที่กำหนดไว้ ๕ เพลง  ได้แก่

     ๑  เพลงช้างประสานงา

     ๒  เพลงนางนาค

     ๓  เพลงฝรั่งรำเท้า

     ๔  เพลงสมิงทองมอญ

     ๕  เพลงสารถีชักรถ

ทั้งนี้  คณะกรรมการผู้จัดการประกวดจะส่งเพลงไทยทั้ง ๕ เพลง  ให้ผู้ผ่านเข้ารอบสุดท้ายนำไปฝึกซ้อมล่วงหน้า  ตั้งแต่วันที่ทราบผลการพิจารณาผู้ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ

 

เกณฑ์การให้คะแนน:

๑  ความไพเราะของน้ำเสียง ๒๐  คะแนน

๒  การอ่านถูกต้องตามอักขรวิธี ชัดเจน ไม่อ่านผิด     ๒๐  คะแนน

๓  การแสดงอารมณ์ความรู้สึกเหมาะสมสอดคล้องกับเนื้อความ ๒๐  คะแนน

๔  ทำนองการอ่านถูกต้องตามแบบแผนบังคับของคำประพันธ์ ๒๐  คะแนน

๕  ความคิดสร้างสรรค์ ๒๐  คะแนน

 

รางวัล:

รางวัลชนะเลิศ ถ้วยพระราชทาน  พร้อมเงินรางวัล  ๑๐,๐๐๐ บาท

(รวม ๒ รางวัล  ชาย  ๑ รางวัล  หญิง  ๑ รางวัล)

รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ ๑ เกียรติบัตร  พร้อมเงินรางวัล  ๘,๐๐๐ บาท

(รวม ๒ รางวัล  ชาย  ๑ รางวัล  หญิง  ๑ รางวัล)

รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ ๒ เกียรติบัตร  พร้อมเงินรางวัล  ๕,๐๐๐ บาท

(รวม ๒ รางวัล  ชาย  ๑ รางวัล  หญิง  ๑ รางวัล)

รางวัลชมเชย เกียรติบัตร  พร้อมเงินรางวัล  ๓,๐๐๐ บาท

(รวม ๔ รางวัล  ชาย  ๒ รางวัล  หญิง  ๒ รางวัล)

 

ติดต่อขอใบสมัคร และรายละเอียดเพิ่มเติม ที่:

งานดนตรีและนันทนาการ ศูนย์ศิลปวัฒนธรรม หรือห้องวงดนตรีแม่โจ้แบนด์  ชั้นล่าง ศูนย์กิจการนักศึกษา อำนวย  ยศสุข มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จังหวัดเชียงใหม่

 

      




ปรับปรุงข้อมูล : 8/4/2554 16:31:52     ที่มา : กองส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยแม่โจ้     จำนวนผู้เปิดอ่าน : 5300

กลุ่มข่าวสาร : ข่าวกิจกรรม

ข่าวล่าสุด

ร่วมพิธีถวายผ้าป่ามหากุศล สมทบทุนจัดซื้ออุปกรณ์การแพทย์และสร้างหอพระ "พระพุทธโรคาวิมุตติ" พระพุทธรูปประจำโรงพยาบาลนครพิงค์
23 พฤษภาคม 2568 ผู้อำนวยการกองส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม พร้อมด้วยหัวหน้างานอนุรักษ์สืบสานศิลปวัฒนธรรม เป็นผู้แทนมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ร่วมพิธีถวายผ้าป่ามหากุศล สมทบทุนจัดซื้ออุปกรณ์การแพทย์และสร้างหอพระ "พระพุทธโรคาวิมุตติ" พระพุทธรูปประจำโรงพยาบาลนครพิงค์มูลนิธิโรงพยาบาลนครพิงค์ โดย นพ.พงษ์ศักดิ์ โสภณ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์นครพิงค์ เชียงใหม่ พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหาร และบุคลากรโรงพยาบาลนครพิงค์ ร่วมกันจัดพิธีถวายผ้าป่ามหากุศล สมทบทุนจัดซื้ออุปกรณ์การแพทย์และสร้างหอพระ "พระพุทธโรคาวิมุตติ" พระพุทธรูปประจำโรงพยาบาลนครพิงค์ได้รับเมตตาจากพระเดชพระคุณ พระธรรมเสนาบดี เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยสุเทพ เจ้าคณะภาค 7 เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และได้รับเกียรติจาก นพ.วรัญญู จำนงประสาทพร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ในพิธีถวายผ้าป่ามหากุศล ณ มณฑลพิธีลานร่มไทร โรงพยาบาลนครพิงค์ ซึ่งมีญาติโยมและผู้มีจิตศรัทธาเข้าร่วมในพิธี และร่วมบริจาคสมทบกองผ้าป่าจำนวนมาก ยอดรวมเบื้องต้น 5,258,979.25 บาท
23 พฤษภาคม 2568     |      1107
พิธีดำหัวผู้อาวุโส และอธิการบดี ประจำปี 2568
28 เมษายน 2568 มหาวิทยาลัยแม่โจ้จัดพิธีดำหัวผู้อาวุโส และอธิการบดี ประจำปี 2568 ร่วมสืบสานประเพณี ปีใหม่เมือง โดยได้รับเกียรติจาก รองศาสตราจารย์ ดร.เทพ พงษ์พานิช นายกสภามหาวิทยาลัย เป็นประธานอวยพรปีใหม่ โอกาสนี้ รองศาสตราจารย์ ดร. วีระพล ทองมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ เป็นผู้แทนกล่าวขอขมาและขอพร จากนั้นคณะผู้บริหาร ผู้แทนแต่คณะ/สำนัก ร่วมประเคนของดำหัวผู้อาวุโส ณ ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ พิธีดำหัวอธิการบดีและผู้อาวุโสของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้จัดให้มีขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อเป็นการร่วมขอขมา คารวะผู้อาวุโส และเป็นการสืบสานประเพณีปีใหม่เมืองของชาวล้านนา หรือประเพณีปีใหม่ไทยช่วงเทศกาลสงกรานต์ให้คงอยู่สืบไป โดยเวลา 13.00 น. มีการเคลื่อนขบวนแห่เครื่องดำหัวของแต่ละหน่วยงานมาเข้าร่วมพิธี และในปีนี้ได้มีกิจกรรมการประกวดส้มตำลีลา การประกวดลาบเมือง การประกวดนวัตกรรมการแปรรูปผลิตผลทางการเกษตรเป็นเครื่องดื่มด้วยภูมิปัญญา เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของบุคลากร ซึ่งหน่วยงานที่ได้รับรางวัลชนะเลิศมีดังนี้ การประกวดส้มตำลีลา รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ คณะวิทยาศาสตร์ การประกวดลาบเมือง รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ คณะวิศวกรรมและอุตสาหกรรมเกษตร การประกวดนวัตกรรมการแปรรูปผลิตผลทางการเกษตรเป็นเครื่องดื่มด้วยภูมิปัญญา รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ กองบริหารงานทรัพย์สินและกิจการพิเศษ ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยความสุข สนุกสนาน ครื้นเครง สร้างความสัมพันธ์ในองค์กร และได้ร่วมสืบสานประเพณีอันดีงาม
7 พฤษภาคม 2568     |      321
ร่วมพิธีทำบุญสมโภชน์เชียงใหม่ 729 ปี นครเชียงใหม่ เมืองแห่งความสุขวิถีวัฒนธรรม
19 เมษายน 2568 ผู้อำนวยการกองส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมเข้าร่วม "พิธีทำบุญสมโภชน์เชียงใหม่ 729 ปี นครเชียงใหม่ เมืองแห่งความสุขวิถีวัฒนธรรม" ณ ลานพระบรมราชานุสาวรีย์สามกษัตริย์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ โดยได้ร่วมกิจกรรมในพิธี ดังนี้เวลา 06.00 น. พิธีทำบุญตักบาตรพระภิกษุสามเณร จำนวน 129 รูปเวลา 07.30 น, พิธีเจริญพระพุทธมนตร์ชัยมงคลเวลา 08.00 น. พิธีบวงสรวงถวายบูรพกษัตริย์เจ้าครองนครเชียงใหม่ตามประเพณีล้านนาโดยจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับสมาคมสตรีนครเชียงใหม่ และหน่วยงานภาคีเครือข่าย ได้จัด พิธีทำบุญสมโภชน์เชียงใหม่ 729 ปี "นครเชียงใหม่ เมืองแห่งความสุขวิถีวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน" เพื่อเป็นการถวายสักการะแด่บูรพกษัตริย์และเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ตามประเพณีล้านนา ให้ลูกหลานตลอดจนประชาชนได้แสดงออกซึ่งความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ กตัญญูกตเวทิตา และร่วมเฉลิมฉลองในโอกาสที่เมืองเชียงใหม่จะมีอายุครบ 729 ปี ในวันเสาร์ที่ 19 เมษายน 2568 รวมทั้งเพื่อเป็นการสนับสนุนให้มีการขึ้นทะเบียนจังหวัดเชียงใหม่เป็นเมืองมรดกโลก และส่งเสริมพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และวัฒนธรรม
21 เมษายน 2568     |      229